กติกาการเล่นบาสเกตบอล

ความพิเศษอย่างหนึ่งของกีฬาบาสเกตบอล คือถูกคิดขึ้นโดยคนเพียงหนึ่งคนคนคนเดียว ต่างจากกีฬาส่วนใหญ่ที่วิวัฒนาการมาจากกีฬาชนิดอื่นๆ ต้นเดือนธันวาคม พ.ศ. 2434 ดร. เจมส์ ไนสมิท คุณครูสอนวิชาพละศึกษาชาวอเมริกันที่เกิดในประเทศแคนาดา เป็นผู้ดูแลสถานที่ของวิทยาลัยแห่งหนึ่งของสมาคมYMC (ณ ปัจจุบันคือ วิทยาลัยสปริงฟีลด์) ในเมืองสปริงฟีลด์ ทำการค้นหาเกมในร่มที่ช่วยให้ผู้คนมีกิจกรรมทำระหว่างฤดูหนาวในแถบนิวอิงแลนด์ หลังจากไตร่ตรองหากิจกรรมที่ไม่รุนแรงเกินไปและเหมาะสมกับโรงยิม เขาได้เขียนกฎพื้นฐานและตอกตะปูติดตะกร้าใส่ลูกพีช เข้ากับผนังในโรงยิม เกมแรกที่เล่นอย่างเป็นทางการ เล่นในโรงยิมYMC ในเดือนถัดมา เมื่อวันที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2435 (ค.ศ. 1892) ในสมัยนั้นทำการเล่นโดยใช้ผู้เล่นเก้าคน สนามที่ใช้มีขนาดประมาณครึ่งหนึ่งของสนามNBA ในปัจจุบัน ชื่อ บาสเกตบอล เป็นชื่อที่เสนอโดยนักเรียนคนหนึ่ง และก็เป็นชื่อที่นิยมมาตั้งแต่ตอนต้น เกมแพร่ขยายไปยังYMCA ที่อื่นทั่วสหรัฐอเมริกา ไม่นานก็มีเล่นกันทั่วประเทศ

แต่สิ่งที่น่าสนใจคือ ถึงแม้ว่า YMCA จะเป็นผู้ที่พัฒนาและเผยแพร่เกมในตอนแรกภายในหนึ่งทศวรรษสมาคมก็ไม่สนับสนุนกีฬานี้อีกเนื่องจากในการเล่นที่ทำให้รุนแรง และผู้ชมที่ไม่สุภาพมาก ทางกีฬาสมัครเล่นอื่นๆ มหาวิทยาลัยและทีมมืออาชีพก็เข้ามาแทนที่ ก่อนที่ช่วงสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง สหภาพการกีฬาสมัครเล่นและ สมาคมการแข่งขันกีฬาระหว่างวิทยาลัย(ซึ่งปัจจุบันคือ NCAA) ได้แข่งกันเพื่อจะเป็นผู้กำหนดกฎและกติกาของเกม

เดิมนั้นการเล่นกีฬาบาสเกตบอลจะใช้ลูกฟุตบอล และลูกบอลที่ทำขึ้นสำหรับบาสเกตบอลโดยเฉพาะในตอนแรกมีสีน้ำตาล ช่วงปลายคริสต์ทศวรรษ 1950 เปลี่ยนมาใช้ลูกสีส้มเพื่อให้ผู้เล่นและผู้ชม มองเห็นลูกได้ง่ายขึ้นและใช้ต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน ผู้ที่ิเริ่มใช้ลูกบาสเกตบอลสีส้มคือนาย โทนี ฮิงเคิล โค้ชมหาวิทยาลัยบัตเลอร์

บาสเกตบอล เป็นกีฬาชนิดหนึ่งซึ่งแบ่งผู้เล่นเป็น 2 ทีม แต่ละทีมประกอบด้วยผู้เล่น 5 คน โดยการพยายามทำคะแนนโดยการโยนลูกเข้าห่วงหรือตะกร้าภายใต้กติกาการเล่นมาตรฐานสากล

ตั้งแต่ที่คิดค้นขึ้นในปี พ.ศ. 2434 (ค.ศ. 1891) โดยเจมส์ เนสมิท บาสเกตบอลได้ถูกพัฒนาขึ้นเป็นกีฬาสากล กีฬานี้มีจุดเริ่มต้นจากในYMCA ลีกที่เกิดขึ้นในสมัยแรก ๆเป็นระดับมหาวิทยาลัย ต่อมาก็กลายเป็นกีฬาอาชีพ มีการจัดตั้งลีกเอ็นบีเอ และเริ่มมีการแข่งขันในกีฬาโอลิมปิกเมื่อ พ.ศ. 2479 (ค.ศ. 1936) ถึงแม้ว่าในระยะแรกๆ ยังเป็นกีฬาที่เล่นเฉพาะในประเทศสหรัฐอเมริกา กีฬาชนิดนี้แพร่ขยายไปสู่ระดับสากลด้วยความรวดเร็ว ปัจจุบันมีนักกีฬาและทีมที่มีชื่อเสียงตามที่ต่าง ๆทั่วโลกมากมาย

เกมบาสเกตบอลได้มีการพัฒนา เทคนิคการเล่นต่าง ๆ เช่น การชู้ตลูก การส่งลูก และ การเลี้ยงลูก รวมไปถึงตำแหน่งผู้เล่น (ซึ่งตามกฎแล้วจริงๆ ไม่จำเป็นต้องมี) และตำแหน่งการยืนในเกมรุกและเกมรับ ผู้เล่นที่ตัวสูงๆ ถือเป็นข้อได้เปรียบ ถึงแม้ว่าในการเล่นแข่งขันจะควบคุมโดยกฎกติกา การเล่นรูปแบบอื่น ๆ สำหรับการเล่นผ่อนคลายก็มีการคิดขึ้นมา บาสเกตบอลยังเป็นกีฬาที่คนนิยมดูอย่างมากอีกด้วย

กติกาบาสเกตบอล

1. ห้ามผู้ที่เล่นถือลูกบอลวิ่ง

2. ผู้ที่เล่นจะต้องส่งบอลไปทิศทางไหนก็ได้ จะใช้มือเดียวหรือสองมือก็ได้

3. ผู้ที่เล่นจะเลี้ยงบอลไปทิศทางไหนก็ได้ จะใช้มือเดียวหรือสองมือก็ได้

4. ผู้ที่เล่นจะต้องใช้มือทั้งสองข้างครอบครองบอล และห้ามใช้ร่างกายช่วยในการครอบครองบอล

5. ในการเล่นห้ามใช้ไหล่กระแทก ห้ามใช้มือดึง ห้ามผลัก ห้ามตี หรือห้ามกระทำการใดๆให้ฝ่ายตรงข้ามล้มลง ถ้าหากผู้เล่นยังฝ่าฝืนถือเป็นการฟาวล์ 1 ครั้ง ถ้า ฟาวล์ครบ 2 ครั้ง ถือว่าหมดสิทธิ์เล่น จนกว่าฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดสามารถทำประตูได้จึงกลับมาเล่นได้อีกครั้ง หากเกิดการบาดเจ็บในการแข่งขัน จะไม่มีการเปลี่ยนผู้เล่นโดยเด็ดขาด

6. ห้ามใช้ขาหรือเท้าแตะลูก ถ้าหากฝ่าฝืนถือเป็นการฟาวล์ 1 ครั้ง

7. ถ้าเกิดฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งทำฟาวล์ติดกัน 3 ครั้ง ให้อีกฝ่ายหนึ่งได้ประตู

8. ประตูที่สามารถทำได้หรือนับว่าได้ประตู จะต้องเป็นการโยนบอลให้ลงในตะกร้าเท่านั้น ฝ่ายป้องกันจะไปยุ่งกับประตูไม่ได้โดยเด็ดขาด

9. ถ้าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งทำลูกออกนอกสนาม อีกฝ่ายหนึ่งต้องส่งลูกเข้ามาในสนามจากขอบสนามภายใน 5 วินาที หากเกิน 5 วินาที ให้เปลี่ยนส่ง และหากผู้เล่นฝ่ายใดก็ตามพยายามถ่วงเวลาให้ปรับเป็นฟาวล์

10. ผู้ตัดสินมีหน้าที่ตัดสินว่าผู้ที่เล่นคนใดทำฟาวล์ และมีหน้าที่ลงโทษให้ผู้เล่นหมดสิทธิ์การลงเล่น

11. ผู้ตัดสินมีหน้าที่ตัดสินว่าลูกใดที่ออกนอกสนาม และฝ่ายใดควรเป็นฝ่ายส่งลูกเข้าสนาม และทำหน้าที่เป็นผู้รักษาเวลา และบันทึกจำนวนประตูที่ทำได้ และทำหน้าที่โดยทั่วไปตามผู้ตัดสิน

12. การเล่นนั้นจะแบ่งออกเป็นจำนวน 2 ครึ่ง ครึ่งละ 20 นาที

13. ฝ่ายที่ทำประตูได้มากที่สุดจะเป็นผู้ชนะ แต่ในกรณีที่คะแนนเท่ากันให้ทำการต่อเวลาออกไปอีก ฝ่ายใดทำประตูได้ก่อนจะถือว่าเป็นฝ่ายชนะ

    เกมการเล่นบาสเกตบอลจะแบ่งเป็น 4 ควอเตอร์ ซึ่งแต่ละควอเตอร์นั้นจะมี 10 นาที หรือมีเพียง 12 นาที (NBA) พักครึ่ง 15 นาที ส่วนพักอื่นๆอีก 2 นาที ช่วงต่อเวลา นาน 5 นาที ทีมแต่ละทีมจะเริ่มสลับฝั่งช่วงครึ่งหลัง เวลาจะนับเฉพาะขณะที่เล่น และนาฬิกาจะหยุดนับเวลาเมื่อหยุดเกม ดังนั้น เวลาในการแข่งขันจึงยาวนานมาก ประมาณสองชั่วโมง
ในที่เริ่มเกมส์จะมีผู้เล่นในสนามฝ่ายละห้าคน และจะมีตัวสำรองทีมละ 7 คน ซึ่งสามารถเปลี่ยนตัวผู้เล่นได้ไม่จำกัด การเปลี่ยนนั้นจะเปลี่ยนได้เฉพาะเมื่อเกมหยุดเท่านั้น ทีมยังคงมีโค้ชผู้ซึ่งคอยดูแลทีมและเป็นผู้วางกลยุทธ์ในการเล่น รวมถึงผู้ช่วยโค้ด ผู้จัดการทีม นักสถิติ แพทย์และเทรนเนอร์

      เครื่องแบบมาตรฐานของผู้เล่น ชายและหญิงได้แก่ กางเกงขาสั้น เสื้อกล้ามที่มีหมายเลขผู้เล่นชัดเจนพิมพ์ทั้งด้านหน้าและหลัง รองเท้าจะเป็นรองเท้ากีฬาหุ้มข้อเท้า ซึ่งอาจมีชื่อทีม ชื่อนักกีฬา หรือสปอนเซอร์ พิมพ์อยู่บนชุดด้วย แต่ละทีม จะได้เวลานอกเพื่อให้โค้ชและผู้เล่นได้ปรึกษาหาลือกันในการแข่งขัน ซึ่งเวลาที่ใช้มักไม่เกินหนึ่งนาที เกมจะถูกควบคุมโดยกรรมการและหัวหน้ากรรมการผู้ตัดสินในสนาม และกรรมการโต๊ะ